เมื่อไม่นานมานี้ทาง Mubeat ได้ ลบ การโหวตล่วงหน้าของศิลปินค่าย Big Hit Entertainment อย่าง BTS และ TXT ออกจากการโหวดของรายการ Music Core จากที่เมื่อวานเราได้อัพเดท Big Hit Labels ประกาศคอนเสิร์ตออนไลน์และออฟไลน์ ที่จะนำศิลปินในเครือ Big Hit Entertainment มาทั้งหมด แต่เป็นสิ่งน่าเสียดายสำหรับแฟน ๆ หลายคน คอนเสิร์ต Big Hit Labels ครั้งแรกนี้ จะจัดขึ้นในวันเดียวกับ MBC Gayo Daejejeon มหกรรมส่งท้ายปี ที่มีการแสดงของวงไอดอล K-Pop มากมาย
หลังจากการประกาศไม่นานก็มีการเปลี่ยนแปลงใน Mubeat แอปสตรีม K-Pop
ก่อนที่จะมีการประกาศเพลง ‘Dynamite’ ของ BTS และ ‘Blue Hour’ ของ TXT ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่มีรายชื่อสำหรับการโหวตล่วงหน้าทั่วโลกของ Mubeat และคลิปของพวกเขาได้ถูกลบออก ในตอนที่ 700 รายการ Music Core ของ MBC ซึ่งแฟน ๆ ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลายคนไม่พอใจกับเรื่องนี้ บางคนถึงกับกล่าวหาว่า MBC “ก่อวินาศกรรม”
โดยสาว พลอย ก็ยังขยายประเด็นของ โฟกัส ในใต้คอมเมนต์อีกว่า
“น้องโฟกัส ความจริง คือ ตอนออนแอร์กันต์ไม่ได้เจตนาไม่สัมภาษณ์ หรือพูดคุย ซึ่งถ้าบอกว่าไม่ให้ซีนจริงๆ น้องคงจะขึ้นมาบนเวทีไม่ได้ ซึ่งถ้าใครดูดีๆ จะเห็นว่า กันต์เป็นคนโยนคำถาม เพื่อให้น้องเจมส์ ได้โยงเข้าเรื่องน้อยหน้า กันต์และทีมงานเตี๊ยมมุกกันกับน้องเจมส์พูดคุยตอนช่วงพักเบรคว่าจะเล่นมุกซื้อน้อยหน่ามาให้ โดยน้องโฟกัสจะเป็นคนถือถุงขึ้นมา โดยเริ่มจากให้ทีมงานบังน้องไว้ก่อน แล้วค่อยเปิดตัวออกมาตอนพูดกันต์โยนคิวให้ โดยพูดถึง ” ศึกชิงน้อยหน่า ” และจังหวะนั้น น้องโฟกัสก็ยื่นถุงน้อยหน่าให้น้องแน็ค และทั้ง3คนพูดคุยโอบกอดกันตามประสาเพื่อน เลยกันต์ไม่ทันได้มีโอกาสได้พูดคุยเจาะจงทักไปทางน้องโฟกัส
เลยทำให้คนมองว่ากันต์มองข้ามหรือไม่ให้เกียรติน้อง ซึ่งความจริงคือกันต์ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ซึ่งกันต์เองก็ยังได้มีการพูดคุยกับน้องโฟกัสปกตินะคะ”
มากันอีกระลอกกับดราม่าศึกชิงน้อยหน่ากับรายการ 10 Fight 10 ซีซั่น 2 คู่ แน็ก ชาลี และ เจมส์ กิจเกษม ที่ชกกันจบไปเรียบร้อย โดยหลาย ๆ คนยังพูดถึงประเด็นของ โฟกัส จีระกุล แฟนสาวของ เจมส์ ที่ผูกโบสีขาวแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองมาเชียร์ในรายการ แต่ทำไมไม่ค่อยเห็น โฟกัส อยู่ในเฟรม กล้องก็ไม่ได้ตัดไปที่ โฟกัส และพิธีกรก็ยังไม่ยื่นไมค์สัมภาษณ์ทั้ง ๆ ที่ยังพอมีเวลา
ล่าสุด 10 พฤศจิกายน 2563 เจ เจตริน ได้ออกมาเคลื่อนไหวในฐานะผู้จัดและโปรโมเตอร์ของรายการ โดยได้โพสต์ภาพที่ตนได้ถ่ายกับ แน็ก และ เจมส์ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ด้วยแคปชั่น “กราบหัวใจนักชกทั้ง2ท่าน @jameskitkasem และ @charliepotjes มวยมีแพ้มีชนะ มีวันของเราวันของเค้า ที่สำคัญสุด มีน้ำใจนักกีฬา #10fight10season2 #gsbattery #เจมีดี #workpoint23”
แต่ไม่วายมีคนเข้ามาถามไถ่ถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องของ โฟกัส ซึ่งทาง เจ เจตริน ก็ได้คอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “ใครคาใจ เชิญชมคลิป โปรโมเตอร์พาชม คลิปที่โพสต์ล่าสุดได้เลยครับ” ซึ่งในคลิปดังกล่าว เจ ได้พาชมเบื้อหลังรายการ ตั้งแต่ห้องพักนักมวย ไปจนถึงตอนแข่งจบ โดยมีช็อตที่ เจ ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ โฟกัส อย่างเป็นกันเอง ถือว่าเป็นการเคลียร์ประเด็น ผู้จัดรายการไม่ให้ซีนโฟกัส เพราะนักแสดงสาวออกมาเคลื่อนไหวเรื่องเกี่ยวกับการเมือง
สไตล์ลิสต์เกาหลีอธิบาย ทำไม ลิซ่า BLACKPINK ถึงไม่เลิกไว้ หน้าม้า
Lisa หน้าม้า – ในตอนล่าสุดของรายการ Knowing Brothers ลิซ่า BLACKPINK พูดติดตลกว่า “เธอจะไม่เลิกไว้ผม หน้าม้า ด้วยเงินที่น้อยกว่า 10 พันล้านวอน (ประมาณ 271 ล้านบาท) ว่าแต่ทำไมล่ะ ? ใน YouTube สไตล์ลิส เกาหลี RareLee ได้อธิบายเหตุผลเบื้องหลังผมหน้าม้าของ ลิซ่า
หลายคนที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับหน้าผากที่กว้าง พวกเขาจึงตัดหน้าม้าเพื่อปกปิดหน้าผากของพวกเขา อย่างไรก็ตาม RareLee ยืนยันว่านั่นไม่ใช่กรณีของ ลิซ่า อย่างแน่นอน ในโอกาสที่หายาก เราได้เห็นการปัดหน้าม้าของเธอ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า หน้าผากของเธอนั้นมีขนาดที่พอดี
ด้านสไตล์ลิสอธิบายว่า ผมหน้าม้าของ ลิซ่า ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง นั่นคือดวงตา ลิซ่า BLACKPINK เป็นที่รู้จักกันในเรื่องดวงตาที่กลมโตและสวยงาม ซึ่งทำให้เธอได้รับฉายาว่า ‘Living Doll’
อย่างไรก็ตาม มีอย่างอื่นที่แตกต่างเป็นพิเศษสำหรับลิซ่า นั่นคือช่องว่างระหว่างคิ้วและตาของ ลิซ่า ค่อนข้างสั้น จากข้อมูลของ RareLee ระยะห่างระหว่างดวงตาและคิ้วที่ยาวขึ้นจะทำให้ดู นุ่มนวลและเงียบขรึม ในทางกลับกัน ทำให้เกิดเสน่ห์แบบ ‘เด็กผู้ชาย’
สไตล์ลิสได้อธิบายต่อไปว่า ผมหน้าม้าบดบังระยะห่างระหว่างตาและคิ้วของ ลิซ่า สิ่งนี้จะเน้นให้เห็นภาพเหมือนตุ๊กตา สร้างออร่าที่ดูเก๋ไก๋และอ่อนหวานอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าลิซ่าปัดผมหน้าม้า ลุคของเธอก็จะดูแข็งแกร่งและเซ็กซี่มากขึ้น โดยเฉพาะคิ้วที่โค้งและทึบของเธอ แม้ว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติกับความเซ็กซี่ แต่ดูเหมือนว่าลิซ่าจะชอบลุคที่ดูน่ารักและนุ่มนวลที่ไว้ผมหน้าม้า
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ทรูวิชั่นส์ได้สรรหาคอนเทนต์กีฬายอดนิยมจากทั่วโลกมานำเสนอให้กับสมาชิกที่ชื่นชอบกีฬาอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี 2564 ทั้งกีฬาระดับเวิลด์คลาส เอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ กีฬาที่หาชมได้ยาก กีฬายอดฮิตอย่างศึกลูกหนัง “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” สุดยอดแห่งลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลก ยิงครบทั้ง 380 แมตช์ ตลอดฤดูกาล
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์