หลังจากที่ได้มีข่าวลือ ข่าวหลุดออกมาอย่างต่อเนื่องของ Call of Duty ที่จะปล่อยตัวออกมาในปี 2021 นี้นั้น ก็มีข่าวออกมาอีกครั้ง โดยอ้างว่าข้อมูลนี้มีความแม่นยำถึง 100% ด้วยกัน เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวหลุดข่าวลือของตัวเกมส์ Call of Duty ที่จะปล่อยตัวออกมาในปี 2021 มาเป็นจำนวนมาก แต่ข่าวทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่กระจัดกระจายกันออกไป ทำให้ยังเจาะจงไม่ได้ว่าตัวเกมส์นั้นจะเป็นไปในทิศทางไหนกันแน่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีการรายงานถึงข่าวลืออันใหม่ที่มีการอ้างอิงว่าข้อมูลที่ปล่อยมานี้มีความแม่นยำถึง 100% ก็ว่าได้
โดยข่าวที่ว่านี้มาจากแหล่งข่าว ModernWarzone
ที่ได้รายงานว่า COD ภาคใหม่นี้นั้นจะถูกพัฒนาโดย Sledgehammer Games (ซึ่งก็ได้มีการกล่าวถึงไปแล้วในหลาย ๆ แหล่ง รวมถึงทาง ModernWarzone ที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้) และได้รับชื่อเกมส์ในภาคนี้ว่า WWII: Vanguard ซึ่งทั้งนี้นั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังก็เป็นได้ แต่มีการยืนยันถึงฉากหลังที่จะกลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW2)
แต่กระนั้นทาง MW นั้นก็ยังได้รับทราบถึงการรายงานก่อนหน้านี้ที่กล่าวว่าตัวเกมส์นั้นจะตั้งอยู่ในช่วงยุค 50 หรือถ้าตามสงครามความขัดแย้งแล้วละก็จะอยู่ในช่วงสงครามเกาหลีแทน โดยทาง MW ก็เชื่อว่าแหล่งข่าวดั้งเดิมนั้นมีความแม่นยำ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าตัวเกมส์นั้นอาจจะมีการครอบคลุมตั้งแต่ช่วงปลายของ WW2 ผ่าน Cutscreens หรือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” (Alternate History) ที่ส่งครามโลกครั้งที่ 2 จะยังยิงยาวไปจนถึงปี 1950s
ซึ่งหลาย ๆ คนก็มองว่าการกลับไปยัง WW2 นั้นถือว่าเป็นการเสี่ยงดวงอย่างปล่อยภัย และมีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องด้วย COD นั้นถือกำเนิด และอยู่กับสงครามนี้มาอย่างยาวนาน อีกทั้งตัวเกมส์ล่าสุดของสงครามนี้ ก็ได้รับการพัฒนาโดยทาง Sledgehammer Games อีกด้วย มันจึงถือว่าเหมาะสมที่ทาง Activision จะดำเนินการไปในแนวทางนี้
รวมไปถึงทาง Sledgehammer Games ไม่พัฒนาอะไรเลยในช่วงที่ผ่านมานอกจากไปช่วยเหลือในการพัฒนา Modern Warfare และ Black Ops Cold War เท่านั้น ในขณะที่ทางสตูดิโอที่รับผิดชอบอย่าง Infinity Ward และ Treyarch กำลังรับผิดชอบประคองตัวเกมส์อยู่นั้น ก็เหลือเพียงแค่ SG ที่สะดวกพอจะพลัดตัวมาพัฒนาได้ อีกทั้งก็มีการรายงานมาอีกว่าตัวเกมส์ภาค 2021 นี้จะถูกควบรวมเข้าไปใน COD: Warzone ด้วยเช่นกัน
ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่าทาง Activision จะมีการดำเนินการ หรือเปิดเผยอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และก็ต่อรอคอยดูว่าจะมีการเปิดเผยอะไรในช่วงฤดูร้อนนี้ตามปกติหรือไม่ ทั้งนี้บรรดาข่าวลือต่าง ๆ นั้นก็ต้องทำการเสพอย่างระมัดระวัง และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่เชื่อกันไป
Reddit เปิดตัวฟีเจอร์ Talk อีกหนึ่งคู่แข่งของ Clubhouse
หลังจากที่ Clubhouse เปิดตัวไป กระแส Audio Live Chat ก็เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งแน่นอน บรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจและซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ของตัวเองเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter และล่าสุดก็ถึงคราวของ Reddit
โดยทาง Reddit ได้เผยโฉมฟีเจอร์ไลฟ์แช็ตใหม่ในชื่อ Reddit Talk ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานเหมือน Clubhouse คือการสนทนาด้วยเสียงกันแบบสดๆ หรือจะเข้าไปเป็นแค่ผู้ฟังเฉยๆก็ได้ และจะรวมเข้ากับ subreddit ที่เป็นฟอรั่มของทางเรดดิตอีกด้วย
ข้อจำกัดของ Reddit Talk คือ มีแค่ผู้ดูแลบน subreddit เท่านั้นที่จะสามารถสร้างห้องสนทนาและเชิญผู้เข้าร่วมสนทนาได้ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน แต่จะเป็นได้แค่ผู้ฟัง ผู้ดูแลหรือเจ้าของห้องสามารถปิดเสียงผู้พูดได้หากต้องการ หรือแบนผู้สนทนาออกจากห้องนั้นได้เช่นกัน, ส่วนของผู้ใช้ทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมได้โดยการส่งอีโมจิ สติ๊กเกอร์หรืออื่นๆ
ขณะที่แอปต้นแบบอย่าง Clubhouse ประสบปัญหาในการระดมทุน แพล็ตฟอร์มต่างๆกลับเริ่มปล่อยฟีเจอร์ในลักษณะของ Audio Live Chat ออกมาแข่งขันกัน ทั้ง Twitter, Facebook, Linkedin หรือ Spotify ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาทียากสำหรับคลับเฮาส์ ด้วยผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้ต่างมีฐานผู้ใช้เป็นจำนวนมาก และกระเป๋าค่อนข้างหน้า
หากคลิปของคุณตังเป้นส่วนตัว คูรก็ยังสามารถแชร์รีลส์ของคุณให้เหล่าผู้ติดตามบนฟีดได้เช่นกัน และเฉพาะผู้ติดตามเท่านนั้นที่จะเป็นคลิปของคุณ และผู้ใช้คนอื่นๆจะไม่สามรารถใช้ไฟล์เสียงต้นฉบับของคุณได้ และไม่สามารถแชร์ไปยังผู้ที่ไม่ได้ติดตามบัญชีของคุณได้อีกด้วย
คุณสามารถเซฟดราฟท์, เปลี่ยนภาพหน้าปก, เพิ่มแฮชแท็ก, คำอธิบายคลิป และแท็กเพื่อของคุณได้ คุณยังสามารถแชร์รีลส์ของคุณไปยังสตอรี่ ส่งให้เพื่อทางข้อความได้อีกด้วย แต่หากแชร์ไปบนสตอรี่ คลิปขงอคุณจะกลายเป็นเหมือนสตอรี่ทั่วไปที่จะไม่โชว์ในโปรไฟลืและจะหายไปใน 24 ชั่วโมง
Music Sticker เป็นฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบน Facebook และ Instagram ให้คุณสามารถเพิ่มเพลงเข้าไปในสตอรี่ของคุณได้(ความยาว 15 วินาที) แถมฟังชั่นให้เลือกว่าจะใส่เป็นเนื้อเพลงหรือภาพปกอัลบั้ม ก็ได้ แนวเพลงให้เลือกมากมาย ทั้งไทย สากล เกาหลี และอีกมากมายจาก Apple Music และ Spotify
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น